FOOTBAll SPORT ฟอร์มเฉิดฉายระเบิดตาข่าย ! ผ่า 5 ใจความสำคัญ หงส์แดง บุกกระหน่ำ เกงค์

FOOTBAll SPORT ท้ายที่สุด เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน สามารถกระตุ้นนักฟุตบอลหงส์แดง ให้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในแมตช์เยี่ยมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป อี เมื่อวันอังคารก่อนหน้านี้ ด้วยการบุกชนะ เกงค์ 4-1 ซึ่งแตกต่างจากฤดูกาลที่แล้วที่ “ลิเวอร์พูล” แพ้เกมเยี่ยมในรอบแบ่งกลุ่มเรียบวุธ
แมตช์นี้ในตอนต้นเกมหากแม้กลุ่มจะได้ประตูขึ้นนำเร็วจาก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แม้กระนั้น “ลิเวอร์พูล” ก็มีลักษณะเป๋ไปเป๋มาด้วยเหตุว่าแนวรับมีปัญหากับการจัดการกับผู้เล่นความเร็วสูงของเจ้าของบ้าน อย่างไรก็ดีในช่วงหลัง หงส์แดง เล่นได้ดิบได้ดีขึ้นอย่างมองเห็นได้จัด แล้วก็กด เกงค์ จนถึงอยู่มือ แทงบอลออนไลน์เว็บไหนดี2019

กระนั้นสิ่งหนึ่งที่จะอดต่อว่ามิได้ก็คือเกมรับ ด้วยเหตุว่าแมตช์ “เดอะ เร้ดส์” ได้โอกาสสูงมากมายๆที่จะเก็บคลีนชีต แต่ว่าจากความบกพร่องของ เดกระทั่งถึง ลอฟเรน ที่เสียสมาธิ ส่งผลให้เกิดประตูตีไข่แตกของเจ้าของบ้าน แม้กระนั้นส่วนที่จำเป็นต้องดูก็คือ แชมเบอร์เลน กับ 3 ทหารเสือ “หินเหล็กไฟ” (SMF) ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเกินยับยั้งใจจริงๆ

1. ดิ อ็อกซ์ กลับมาแล้ว

ยังจำกันได้ว่า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จะต้องเข้าไปรักษาร่างกายนานจากการบาดเจ็บเข่า ในแมตช์ที่ช่วยสังกัดเดิมปะทะกับ “หมาป่าเหลืองแดง” โรม่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้เขาจำเป็นต้องเสียโอกาสลงเล่นเกมสำคัญในรอบชิงถ้วยใบโต (แพ้ เรอัล มาดริด)

ภายหลังรู้สึกตัวร่างกายได้เสร็จในตอนนั้น “ลิเวอร์พูล” มีขุมกำลังมากขึ้น แล้วก็แน่ๆว่าช่องทางที่กำลังจะได้ลงในสนามค่อนจะยากขึ้นเรื่อยซึ่งแน่ๆว่าในช่วงเวลานั้นกำเนิดปริศนามากมายก่ายกองว่าเขาจะได้รับช่องทางสวมชุดแต่งกายสีแดงเพลิงอีกต่อไปหรือเปล่า

แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังเชื่อถือในฝีเท้าของ แชมเบอร์เลน โดยภายหลังที่ อดีตกาลดาวเตะ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ฟิตบริบูรณ์แล้ว นายใหญ่ชาวเยอรมัน ถึงขั้นยิ้มฟันขาวพร้อมกำหนดการที่นักฟุตบอลหายเจ็บแบบเด็ดขาดอย่างกับชมรมได้เซ็นสัญญานักฟุตบอลใหม่สำหรับเพื่อการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ผลงานตั้งแต่ต้นฤดู 2019/20 แชมเบอร์เลน ค่อยบ่งบอกถึงฟอร์มการเล่นที่เคยสะดุดตาอีกรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม “แดงเดือด” เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายหลังลงเล่นเป็นตัวสำรองในแมตช์บุกเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งมีจังหวะช่วงท้ายเกมที่ยิงไกลบอลเฉียดฉิวเสาออกไปนิดหนึ่ง

ในช่วงเวลาที่ในแมตช์ปัจจุบันชนะ เกงค์ นักฟุตบอลระเบิดฟอร์มสะดุดตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะการยิงไกลที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาซึ่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิด 2 ประตูในเกมสำคัญนี้ สำหรับผลงานชั้นเลิศนี้นับว่าเป็นรางวัลทดแทนให้กับความเชื่อมั่นที่ คล็อปป์ มอบให้ คาดว่าในเกมต่อๆไป ได้โอกาสสูงที่ แชมเบอร์เลน จะได้ลงเล่นตัวจริง รวมทั้งนับว่าเป็นอาวุธหนักให้กับกองทัพ “เดอะ เร้ดส์”

2. แนวรับบอบบางในเกมยุโรป

หงส์แดง เปลี่ยนเป็นกลุ่มที่มีเกมรับสุดเข้มแข็งตั้งแต่แมื่อที่พวกเขาจับตัวได้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มาร่วมทีม โดยในเกมพรีเมียร์ลีก “เดอะ เร้ดส์” พวกเขาเสียเพียง 7 ประตูจากการลงสู่สนาม 9 เกมลีก จัดว่าเยี่ยม แต่ว่าในเกมบอลถ้วยยุโรป มันช่างไม่เหมือนกันอย่างมาก

สำหรับการลงสู่สนามเพื่อปกป้องแชมป์ “บิ๊กเอียร์” ประจำฤดูนี้ พวกเขาเสียไปแล้ว 8 ประตูจากการเล่น 2 แมตช์แรกที่เจอกับ นาโปลี (แพ้) รวมทั้ง เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ชนะ) ขนาดในเกมเยี่ยม เกงค์ ที่ดูราวกับว่ากลุ่มจะเก็บคลีนชีตได้ แต่ว่าความบกพร่องในแนวรับช่วงด้านหลังเกมทำให้กลุ่มจำเป็นต้องเสียประตูไปแบบไม่น่าเสีย

ถ้าเกิดพินิจพิจารณาเกี่ยวกับเกมรับในแมตช์นี้ ในตอนต้นเกม หงส์แดง โดนการเล่นบอลยาวสวนกลับทำเอาแนวรับป่วนปั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการกับความเร็วของ เอ็มบวาน่า ซามัตต้า กับ ปอล โอนูอาชู ที่เกือบจะทำคะแนนได้หลายครา แม้กระนั้นโชคร้ายที่ทิ้งนาทีทองไป

อย่างไรก็ดีในจังหวะการเสียประตู เอาเข้าจริงๆผู้ที่ควรจะโดนติเตียนที่สุดอาจจะหนีไม่พ้น เดกระทั่งถึง ลอฟเรน เพราะว่าเห็นได้ชัดว่าเขาบังบอลและก็คู่ปรับจนกระทั่งมิด แม้กระนั้นการเสียสมาธิเพียงแค่น้อยมากส่งผลให้เกิดการเช็ดกแย่งบอล รวมทั้งแปลงเป็นประตูของกลุ่มเจ้าของบ้าน จำเป็นต้องพูดว่านับว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเหตุว่าถ้าเกิดกลุ่มเก็บคลีนชีตได้ คงจะทำให้ “ลิเวอร์พูล” เล่นด้วยความแน่ใจเยอะขึ้น

3. ช่างเชื่อม(เกม)ฟีร์มีโน่

การขาดหายไปของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บางทีอาจจะมีผลต่อฟอร์มการเล่นในเกมรุกที่ติดขัดเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้กระนั้นในแมตช์นี้ ซาลาห์ ได้ลงเล่นตัวจริงติดต่อประสานงานกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และก็ ซาดิโอ มาเน่ ทำให้เกมรุกของกลุ่มกระปรี้กระเปร่าขึ้นในทันที

ส่วนสามผสาน “หินเหล็กไฟ” ที่เด่นที่สุดก็คือ ฟีร์มีโน่ เนื่องจากว่าเจ้าตัวชี้ให้เห็นถึงแนวทางแล้วก็ลีลาท่าทางสุดพราวแพรวในเกมนี้ รวมถึงการโชว์ฟอร์มชั้นเยี่ยมในแมตช์นี้ ทั้งยังการกระตุกลากเลื้อยเข้าไปในพื้นที่ว่าง, การส่งบอลที่แสนเฉียบคม, แนวทางการทำชิ่งกับเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มเข้าไปในพื้นที่อันตราย แล้วก็การวิ่งหลอกทำทาง

ในตอนนี้จำเป็นต้องเห็นด้วยว่า สตาร์ชาวบราซิเลียน ใกล้เคียงกับคำว่าหนึ่งในจอมแอสซิสต์ที่เก่งที่สุดชั่วนิจนิรันดร์ โดยยิ่งไปกว่านั้นในจังหวะที่จ่ายบอลแบบไขว่ห้างให้กับ มาเน่ หลุดเข้าไปยิง แม้กระนั้นโชคร้ายที่ ปีกความเร็วสูงกลุ่มชาติเซเนกัล ดันยิงไม่เข้า ไม่เช่นนั้นจังหวะนี้จะได้รับการพูดเยอะขึ้น

กระนั้นในจังหวะที่ มาเน่ ทำประตูลำดับที่สามให้กลุ่ม ถ้าดูตั้งแต่จุดเริ่มแรก ฟีร์มีโน่ มีส่วนอย่างยิ่งในประตูนี้ ด้วยเหตุว่าเขาเป็นคนจ่ายบอลอย่างเที่ยงตรงให้กับ ซาลาห์ ก่อนที่จะ ดาวยิงกลุ่มชาติอียิปต์ จะผ่านบอลให้ มาเน่ จัดแจงจ่ายบอลเข้าไปซุกตูดตาข่ายอย่างงดงาม

4. ฟาบินโญ่ มีอิสระสำหรับในการเล่น

ผลงานของ ฟาบินโญ่ ในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเบาๆปรับปรุงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยนักฟุตบอลย้ายมาอยู่กับกลุ่มเมื่อฤดูก่อนหน้าที่ผ่านมา รวมทั้งเริ่มจากการเป็นตัวสำรอง ก่อนที่จะเบาๆปรับพฤติกรรมกับเกมลูกหนังเมืองผู้ดี กระทั่งแปลงเป็นกองกลางตัวเลือกแรกของ คล็อปป์ อย่างสม่ำเสมอ

ยิ่งในช่วงฤดูกาล 2019/20 ฟาบินโญ่ เป็นมิดฟิลด์เบอร์ 1 ในใจคล็อปป์ และก็ได้รับจังหวะพอดีจริงอย่างสม่ำเสมอ โดยสิ่งที่เด่นของ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ก็คือการเล่นอย่างมีระบบระเบียบระเบียบในฐานะโฮลดิ้ง กองกลาง แล้วก็สามารถตัดเกมคู่ปรปักษ์ได้ตลอด

ช่วงเวลาเดียวกันในเกมนี้ ฟาบินโญ่ ยังได้อิสระสำหรับในการเพิ่มเติมเกมบุกมากยิ่ง นอกจากนั้นการเล่นร่วมกับ นาบี เกอิต้า และก็ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำให้แดนกลางของ หงส์แดง ค่อนข้างจะแน่นแฟ้น แถมทั้งคู่คนยังได้โอกาสที่ขยับขึ้นเติมเกมได้สม่ำเสมอ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเรื่องเกมรับ

ทีเด็ดของ ฟาบินโญ่ ยังมีอีกเมื่อมีหลายจังหวะที่เขาวิ่งลงมาช่วยจัดการบอลในเกมรับ ผลงานของนักฟุตบอลนับว่ามีความหมายกับหงส์แดงอย่างยิ่ง นอกนั้นการที่ อดีตกาลหน้าแข้งโมนาโก เล่นก้าวหน้ายังช่วยปรับ เกอิต้า รวมทั้ง แชมเบอร์เลน เล่นเจริญไปด้วยเช่นเดียวกัน

5. อลีสซง สำคัญเสมอ

อลีสซง เบ็คเกอร์ ได้เกมแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูนี้ รวมทั้งยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญของกลุ่มเสมอ โดยเขาช่วยกลุ่มปกป้องจังหวะสำคัญในเกมเยี่ยม เกงค์ ได้อย่างดียิ่ง ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่สาวก “เดอะ ค็อป” รู้สึกบันเทิงใจสุดๆเมื่อได้มองเห็นเขายืนเฝ้าเสาประตู

นายด่านชาวบราซิเลียน ได้ลงเล่นตัวจริงในเกม “แดงเดือด” ที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยในแมตช์นั้นเขาบางครั้งอาจจะไม่ค่อยได้โชว์ฟอร์มอะไรเท่าไรนัก เนื่องมาจาก หงส์แดง คุมเกมได้หมด และก็นานๆจะมองเห็นแนวรุก “ผีแดง” จะบุกเข้ามาก่อความวุ่นวาย

สำหรับในเกมกับ เกงค์ บอกเลยว่า อลีสซง ได้โชว์ความยอดเยี่ยมของเขาให้ครั้ง โดยยิ่งไปกว่านั้นในจังหวะสำคัญที่ เอ็มบวาน่า ซามัตต้า หลุดเข้าไปทำประตู ก็ได้ความนิ่งของ นายทวารเลือดแซมบ้า ช่วยปกป้องเอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว ด้วยเหตุนี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คล็อปป์ จะไว้เนื้อเชื่อใจให้เขายืนหนึ่งที่หน้าปากประตู

ถึงแม้ อาเดรียน จะทำผลงานเจริญในตอนที่ อลีสซง จำต้องพักฟื้นจากการบาดเจ็บตอนต้นฤดูนี้ แม้กระนั้นจำเป็นต้องเห็นด้วยว่า โกลกลุ่มชาติบราซิล ยังคงเป็นผู้เล่นที่คู่ควรกับตำแหน่งมือ 1 ของกลุ่มเสมอ